หลังกลายเป็นข่าวฉาวดังไปทั่วประเทศ เมื่อมีการเผยแพร่ข่าวข้าราชการผู้หญิงตำแหน่งนักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ สังกัดสำนักวิจัยและพัฒนาการป่าไม้ กรมป่าไม้ ถูกคุกคามทางเพศจาก นาย "อ."(นามสมมุติ) พนักงานราชการทำหน้าที่เป็นพนักงานขับรถ ของสำนักวิจัยฯ ระหว่างเดินทางไปปฏิบัติราชการในต่างจังหวัด แต่ข้าราชการผู้หญิงคนดังกล่าวหนีเอาตัวรอดมาได้และไปร้องเรียนกับผู้บังคับบัญชา พร้อมบอกว่าจะเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ปรากฏว่าผู้บังคับบัญชาที่เป็นผู้หญิงได้ห้ามเอาไว้ และกำชับว่าขอให้ข้าราชการหญิงคนดังกล่าวเงียบๆเอาไว้ เดี๋ยวจะย้ายคนขับรถรายนี้ออกจากพื้นที่เอง

           หากปล่อยให้เรื่องนี้ทราบไปถึงบุคคลภายนอก จะทำให้กรมป่าไม้เสื่อมเสียมาก ที่สำคัญขอให้สงสารพนักงานราชการที่ก่อเหตุคุกคามนั้น เพราะมีปัญหาครอบครัว ภรรยาหนี และมีลูกต้องรับผิดชอบ รวมทั้งมีความพยายามจากผู้บริหารต้นสังกัดในการปกปิดให้เรื่องเงียบด้วย จนบรรดาข้าราชการในสำนักวิจัยซึ่งทราบเรื่องนี้ ทนไม่ไหวมีการส่งข้อความผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับข้าราชการหญิงคนนี้ จนกระทั่งเรื่องทราบไปถึงนายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ โดยนายชลธิศได้สอบถามรายละเอียดที่เกิดขึ้น แต่ปรากฏว่าหัวหน้างานของข้าราชการหญิงบอกให้ข้าราชราชการหญิงโกหกนายชลธิศว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด พร้อมกับย้ำว่าจะให้พนักงานราชการที่ก่อเหตุออกจากงานเร็วๆนี้


 ล่าสุด นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องการตั้งกรรมการสอบวินัยฯว่า สาเหตุที่มีผลสรุปว่าให้ตั้ง กรรมการสอบวินัยไม่ร้ายแรงนั้น เป็นข้อเสนอที่มาจากสำนักบริหารงานกลาง กรมป่าไม้ ที่ดูแลเรื่องระเบียบ วินัย ที่ถูกกำหนดมาจากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) อีกทีหนึ่ง

         ส่วนผลที่ได้จากการสอบสวนทั้งสองฝ่ายออกมาอย่างไร กรรมการก็จะเอาไปเปรียบเทียบกับข้อที่ ก.พ.กำหนดเอาไว้ที่มีอยู่ 2 อย่าง คือ วินัยร้ายแรง และวินัยไม่ร้ายแรง แม้ผลที่ออกมาอาจจะขัดกับความรู้สึกของคนที่ได้รับทราบเรื่องนี้ แต่ในเมื่อหลักเกณฑ์ที่ ก.พ.กำหนดเอาไว้ ก็ต้องออกมาเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม ตนได้ส่งหนังสือกลับไปถามทางฝ่ายสำนักบริหารงานกลางแล้วว่า ผลที่ได้จากการสอบสวน มีข้อไหนที่สรุปออกมาแล้วเป็นวินัยไม่ร้ายแรงบ้าง

ทีมา   http://www.siamdrama.com/view-153.html